เกมบิ๊กแมตช์ของพรีเมียร์ลีก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เป็น “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่เปิดฉากบุกใส่ “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด อยู่ฝ่ายเดียว และมีโอกาสยิงประตูหลายครั้งทั้งจาก คัลลัม ฮัดสัน โอดอย, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ รีซ เจมส์ แต่ ดาบิค เด เคอา ผู้รักษาประตูปีศาจแดงยังโชว์ซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้ทั้งหมด
ก่อนที่นาที 50 จะเป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะจับบอลผิดพลาดของ จอร์จินโญ่ ทำให้โดน เจดอน ซานโซ่ ฉกเข้าไปยิงให้ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
แต่สุดท้าย เชลซี ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกโทษ อารอน วาน บิสซาก้า ไปทำฟาล์ว ติอาโก้ ซิลวา ก่อนจะเป็น จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้มาเสมอกันที่ 1-1
เวลาที่เหลือทั้งสองยังมีโอกาสยิงประตูกันอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นประตูทำให้จบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 30 คะแนน ยังนำเป็นจ่าฝูง แต่นำหน้า แมนฯซิตี้ รองจ่าฝูงแค่แต้มเดียว ส่วน แมนฯยูไนเต็ด หล่นไปที่ 8 มี 18 คะแนน
หลังเกม โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี ออกมายอมรับว่า รู้สึกผิดหวังที่ทีมขอเขาเก็บได้เพียงแค่คะแนนเดียว เพราะ เชลซี แสดงให้ว่า เหนือกว่าทุกรูปแบบ ส่วนประตูที่เสียก็ถือว่า โชคร้าย เพราะเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล และเกิดกับ จอร์จินโญ่ ที่พลาดน้อยมากจากการลงเล่นที่ผ่านมา
ด้าน ไมเคิ่ล คาร์ริก กุนซือปีศาจแดง ยอมรับว่า รู้สึกเสียดายที่ลูกทีมพลาดได้ 3 คะแนน เพราะนักเตะทุกคนเล่นกันได้อย่างทุ่มเท ถึงแม้จะเล่นได้ไม่สวยงาม แต่ก็ถือว่า น่าพอใจ โดยต้องยอมรับว่า เป็นสองเกมสำหรับเขาที่ยอดเยี่ยม และหวังว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไป
ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวโปรตุเกส แสดงความไม่พอใจชัดเจนเมื่อต้องถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมนี้ เพราะหลังจากกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา โรนัลโด้ ที่ถูกเปลี่ยนลงสนามมาก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ และเดินเข้าไปในอุโมงค์ทันที โดยไม่มีการจับมือกับ กรรมการ หรือ นักเตะคู่แข่งแต่อย่างใด
สนับสนุนโดย เกมมัน