อดีตกุนซืออาร์เซนอล ตอบสื่อกรณี นิวคาสเซิล จ่อฉีกสัญญาคว้าตัวไปคุมทีม แม้ บียาร์เรอัล ยังมีลุ้นเข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
วันที่ 3 พ.ย. 64 อูไน เอเมรี ผู้จัดการทีมบียาร์เรอัล ให้สัมภาษณ์หลังเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มเอฟ ซึ่งเปิดบ้านเอาชนะ ยัง บอยส์ แชมป์ลีกสวิตเซอร์แลนด์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม เนื่องจากผลงานเฮด-ทู-เฮด “เรือดำน้ำสีเหลือง” เป็นรอง “ปิศาจแดง” จากเกมที่ออกไปแพ้ 1-2 ยังได้ลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ในอีก 2 เกมที่เหลือ
เอเมรี ตอบคำถามสื่อหลังมีรายงานว่าตัวเขากลายเป็นเต็ง 1 ที่จะได้รับงานกุนซือคนใหม่ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อจาก สตีฟ บรูซ ที่โดนปลดออกไป หลังจาก พีไอเอฟ กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย เจ้าของสโมสรใหม่ของ “สาลิกาดง” พร้อมจ่าย 6 ล้านยูโร (234 ล้านบาท) ให้กับ บียาร์เรอัล ในการฉีกสัญญาของอดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอลที่ยังเหลือจนถึงช่วงซัมเมอร์ ปี 2023
กุนซือที่เพิ่งจะมีอายุครบ 50 ปีในวันนี้ เปิดเผยว่า “พวกเขา (นิวคาสเซิล) บอกผมว่าสนใจในตัวผม แต่ยังไม่มีข้อเสนออย่างเป็นทางการเข้ามาที่สโมสร และผมก็กำลังโฟกัสกับเกมนี้อยู่ หากมีอะไรที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ผมจะเข้าไปคุยกับประธานสโมสร แต่ตอนนี้ผมยังทำงานให้กับ บียาร์เรอัล อยู่”
ขณะเดียวกัน เฟร์นานโด โรอิก ประธานสโมสรบียาร์เรอัล ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า เอเมรี ยังมีสัญญากับทีมอยู่ และด้วยความเป็นมืออาชีพแล้ว เขาหวังว่าจะได้เห็นกุนซือรายนี้อยู่ต่อไปจนหมดสัญญา
สำหรับ เอเมรี กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของ นิวคาสเซิล ด้วยผลงานพา เซบีญา คว้าแชมป์ยูโรปาลีก 3 สมัยติดต่อกันในปี 2014-2016, พา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้แชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส 1 สมัย พ่วงด้วย เฟรนช์คัพ และ เฟรนช์ ลีกคัพ อย่างละ 2 สมัย, นำ บียาร์เรอัล ได้แชมป์ยูโรปาลีก ฤดูกาลที่แล้ว จากการดวลจุดโทษชนะ แมนยูฯ ในรอบชิงชนะเลิศ และมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซนอล ซึ่งก็พาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก ปี 2019 แต่ได้รองแชมป์
สนับสนุนโดย เกมมัน