เริ่มเกมได้แค่ 5 นาที เป็น ลิเวอร์พูล ที่ออกนำอย่างรวดเร็ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ นาบี เกอิต้า ยิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 13 สกอร์ไหลเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ ลุค ชอว์ สองแนวรับของปีศาจแดง ก่อนจะโดน ดิโอโก้ โชต้า สำเร็จโทษ ลิเวอร์พูล ยังบุกหนัก นาทีที่ 38 ก็มาได้ประตูหนีห่าง 3-0 จาก โม ซาลาห์
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขยับหนีไปเป็น 4-0 โชต้า ไหลบอลให้ ซาลาห์ ยิงเสียบตาข่ายเข้าไป ช่วยให้ “หงส์แดง” ทะยานนำอยู่ในครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังครองได้เหนือกว่า ก่อนจะมาได้ประตูปิดท้ายจาก แฮตทริกของ โม ซาลาห์ ในนาทีที่ 49 ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 5-0
นอกจากโดนนำห่างแล้วสถานการณ์ของ “ปีศาจแดง” ยังย่ำแย่งลงไปอีกเมื่อนาทีที่ 60 พอล ป็อกบา ไปเสียบใส่ เกอิต้า อย่างรุนแรง โดยในตอนแรกผู้ตัดสินแจกแค่ใบเหลือง แต่เมื่อมาเช็ก VAR ก็เปลี่ยนเป็นใบแดง และในจังหวะดังกล่าว เกอิต้า ก็เจ็บจนถูกหามออกไปด้วย
แต่เวลาที่เหลือถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะได้เปรียบตัวผู้เล่นแต่ก็ยิงประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบเกม “หงส์แดง” ถล่มเอาชนะไป 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน รั้งรองจ่าฝูงต่อไป ตามหลัง เชลซี แค่แต้มเดียว ส่วน แมนฯยูไนเต็ด มี 14 คะแนน หล่นไปอยู่อันดับ 7
นี่เป็นการแพ้ ลิเวอร์พูล ที่หนักสุดในรอบ 126 ปี ของ แมนฯยู นับจากที่เคยแพ้ 1-7 เมื่อปี 1895 และยังเป็นการแพ้ 0-5 ในบ้านครั้งแรกในรอบ 66 ปี ต่อจากเกมที่แพ้ แมนฯซิตี้ สกอร์นี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1955
สนับสนุนโดย เกมมัน